ความสุขของพนักงานมีค่าเท่าไหร่

ผมมีโอกาศได้ดูหนังเรื่อง “พรจากฟ้า” อีกครั้งเมื่อไม่นานนี้ ผมประทับใจคำพูดของ ตัวละครที่ชื่อ “หลง” ซึ่งรับบทโดย “เต๋อ” และ “คิม”” ที่รับโดย “หนูนา” มีคำพูดตอนหนึ่งที่เขาเข้าไปขอผู้บริหารให้อนุมัติโครงการห้องซ้อมดนตรี แล้วเหมือนบอร์ดจะไม่อนุมัติ
ก็แน่ละ พนักงานขออนุมัติห้องซ้อมดนตรี จากที่หนังเล่าคงใช้เงินจำนวนที่มากจนไม่ต้องขอก็รู้ว่าเขาจะไม่อนุมัติ พนักงานที่ออฟฟิตนี้พยายามจะหาความสุขโดยการเล่นดนตรีหลังเลิกงาน (ก็งานมันเครียด) แต่พวกเขาไม่มีห้อง จึงเอาอุปกรณ์ไปซ่อนตามสถานที่ต่างๆ และ หลังเลิกงานก็เอาออกมาเล่นจนหัวหน้าด่า วิ่งเก็บของหลบกันจ้าระหวั่น แต่ก็ทำให้เราสัมผัสได้ว่า พวกเขาสามัคคีกันดีมาก

พวกเขาทั้งคู่จึงพยายามขอเข้าพบผู้บริหารเพื่อขอโอกาศแสดงความตั้งใจให้ผู้บริหารดูโดยแสดงดนตรีที่พวกเขาซ้อมมาอย่างตั้งใจให้ผู้บริหารเห็น

“หลง” เข้าไปถามผู้บริหารว่า
“งบประมาณสำหรับห้องซ้อมดนตรีน่าจะไม่คุ้มกับการลงทุนใช่ไหมครับ แล้ว ความสุขของพนักงานคนหนึ่งต้องใช้ตัวเลขเท่าไหร่ถึงจะคุ้มครับ”
“ผู้บริหาร” ตอบว่า “ดูจากที่ผมเห็น หากเราไม่ลงทุน คงเป็นการล้มละลายทางความสุขของพนักงานเป็นแน่”

ในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชาทีม ผมคงไม่สามารถอนุมัติห้องซ้อมดนตรีได้หรอก ทำได้ดีที่สุดก็คือดูแลให้น้องๆทำงานอย่างมีความสุข คอยสังเกตุสีหน้า คอยดูแลสารทุกข์สุขดิบเล็กๆหน้อย ซึ่งผมก็พบว่า่ความสุขเล็กๆน้อยๆของตาแก่คนนี้ มาจากเสียงหัวเราะ เสียงหยอกล้อพูดคุย ท่าเต้นประหลาด และท่าทางหลุดๆ ของเด็กๆในออฟฟิต ทำให้บรรยากาศการทำงานที่นี้สนุกอย่างบอกไม่ถูก
ผมพบว่าถ้าพนักงานมีความสุข ภาระงานที่หนักหน่วงและแรงกดดันนั้นจะไม่สามารถทำอะไรพวกเราได้เลย
สู้ต่อไปนะ !